วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และเชื่อมโยงความคิด (Apperception)

3) ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และเชื่อมโยงความคิด (Apperception)
1. ทิศนา แขมมณี (1964:48)  กล่าวว่า มนุษย์เกิดมาไม่มีทั้งความดีและความเลวในตัวเอง การเรียนรู้เกิดได้จากแรงกระต้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม จอร์น ล็อค เชื่อว่าคนเราเกิดมาพร้อมกับจิตหรือสมองที่ว่างเปล่า การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 การส่งเสริมให้บุคคลมีประสบการณ์มากๆในหลายๆทางจึงเป็นการช่วยให้บุคคลเกิดการเรียนรู้
2.  http://pirun.ku.ac.th/~g521465339/Data/Py2.htm  ได้รวบรวมไว้ว่า แนวทางในการสร้างความคิดรวบยอดใหม่จากความคิดรวบยอดเดิมและเน้นในเรื่องของจริยธรรม (moral) โดยถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของการศึกษา ซึ่งทฤษฏีทางการศึกษาของแฮร์บาร์ทได้วางรากฐานเกี่ยวกับวิธีสอนของเขาโดยอาศัยระบบจิตวิทยาการเรียนรู้และได้สรุปลำดับขั้นของการเรียนรู้ไว้ 3 ประการดังนี้
           1.  เริ่มต้นด้วยกิจกรรมทางวิธีประสาท (Sense Activity)
           2.  จัดรูปแบบแนวความคิด (Ideas) ที่ได้รับ
           3.  เกิดความคิดรวบยอดทางความคิดหรือเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
จากขั้นตอนการเรียนรู้นี้ ทำให้เกิดวิธีสอนดังต่อไปนี้
         1. Clearness กำหนดให้ผู้เรียนรวบรวมความคิดใหม่ ๆ ให้เข้าใจอย่างชัดแจ้ง
        2. Association ขั้นของการนำความคิด ความรู้ที่เกิดจากขั้นที่ 1 ไปสัมพันธ์กับสิ่งที่เคยได้รู้มาแล้ว
        3.  Method เป็นขั้นของการนำมาใช้ โดยแบ่งออกเป็น 5 ขั้นคือ
                  ·  Clearness   ดัดแปลงออกเป็น 2 ขั้นตอนคือ      ขั้นเตรียม (Preparation)  และขั้นสอน (Presentation)
                 ·   Association   ดัดแปลงเป็น Comparison และ Abstraction หรือขั้นย่อ
                 ·   System ดัดแปลงเป็น Generalization หรือขั้นทบทวน
                 ·   Method   ดัดแปลงเป็น Application   หรือขั้นใช้
              ขั้นตอนของแฮร์บาร์ทนี้ เป็นวิธีถ่ายโยงวิธี Sensory Impression  ของเปสตาลอสซี  เพื่อให้เกิดขั้นตอนของการเรียนรู้  ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับความรู้ (cognitive) และจริยธรรมคล้ายกับกลุ่มโซฟิสต์
3.  http://e-book.ram.edu/e-book/p/PC460(51)/PC460-3.pdf ได้รวบรวมไว้ว่า เมื่อใดก็ตามที่ประสาทสัมผัสหรือกระบวนการด้านความคิดเกิดขึ้นในจิตสำนึก โดยที่ประสาทสัมผัสและกระบวนการด้านความคิดเกิดขึ้นด้วยกันแล้ว กฎของความต่อเนื่อง (law of contiguity) จะเกิดขึ้น ซึ่งนั่นคือกฎของความสัมพันธ์เชื่อมโยงนั่นเอง ทำให้เข้าใจจิตวิทยาใน คำถาม “how” ได้โดยผ่านกระบวนการของความสัมพันธ์เชื่อมโยง อารมณ์ (Emotion)
สรุป  ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และเชื่อมโยงความคิด กล่าวว่า ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการเรียนรู้ ช่วยให้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ ทำให้เกิดความเข้าใจได้เป็นอย่างดี การเรียนรู้เกิดจากแรงกระตุ้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อมโดยการแปลความหมายจากการสัมผัสในทฤษฎีนี้จึงเน้นให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ผ่านทาง ประสาทสัมผัสทั้ง 5 และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจได้เป็นอย่างดี

ที่มา:
 ทิศนา แขมมณี.(2553).ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
 http://pirun.ku.ac.th/~g521465339/Data/Py2.htm  เข้าถึงเมื่อ 7 กรกฎาคม 2555
 http://e-book.ram.edu/e-book/p/PC460(51)/PC460-3.pdf  เข้าถึงเมื่อ 7 กรกฎาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น